ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า AC กับ DC Fast charge แตกต่างกันอย่างไร


10/09/2023

Share:
What-is-the-difference-between-AC-and-DC-charging-stations

ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า AC กับ DC Fast charge แตกต่างกันอย่างไร

ในปัจจุบัน การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้ามีด้วยกัน 2 แบบ คือ การชาร์จแบบ AC (Alternating current) และการชาร์จแบบ DC (Direct current) 
ซึ่งการชาร์จทั้ง 2 แบบมีข้อแตกต่างกันดังต่อไปนี้

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC เป็นการชาร์จไฟแบบธรรมดา โดยจ่ายไฟฟ้าแบบกระแสสลับ ซึ่งต้องใช้เวลาในการชาร์จนานกว่าการชาร์จแบบ DC

 

รูปประภทหัวชาร์จ AC แบบต่างๆ

 

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC นั้น แตกต่างจากการชาร์จแบบ DC ตรงที่ เป็นการชาร์จผ่าน On Board Charger ก่อน จากนั้นจึงชาร์จเข้าแบตเตอรี่ภายในรถ จึงทำให้ชาร์จได้ช้ากว่า

วิธีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC สามารถทำได้ที่บ้านหรือที่สถานีชาร์จ AC ซึ่งมักพบเห็นได้ตามบ้านพักอาศัย อาคารสำนักงาน ห้างสรรพสินค้า และสถานที่สาธารณะอื่น ๆ

ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC นั้น จะต้องเสียบสายชาร์จเข้ากับช่องชาร์จที่ตัวรถ จากนั้นจึงเสียบสายชาร์จเข้ากับเต้ารับแบบธรรมดาโดยใช้หัวชาร์จที่มาพร้อมกับรถยนต์ไฟฟ้า

หลังจากเสียบสายชาร์จเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการชาร์จไฟให้อัตโนมัติ ความเร็วในการชาร์จไฟจะขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าของเต้ารับ

 

ข้อดีของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC

ติดตั้งและบำรุงรักษาไม่ยุ่งยาก
ค่าใช้จ่ายในการชาร์จถูกกว่าเมื่อเทียบกับแบบ DC
สามารถชาร์จไฟได้อย่างต่อเนื่อง ไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่เสื่อม
รองรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นที่มีช่องชาร์จแบบ AC

 

ข้อเสียของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ AC

ใช้เวลาในการชาร์จนาน 
อาจไม่สะดวกต่อการใช้งานในบางสถานการณ์ เช่น หากต้องขับรถระยะไกล

 


การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC เป็นการชาร์จไฟแบบด่วน โดยจ่ายไฟฟ้าแบบกระแสตรง ซึ่งใช้เวลาในการชาร์จไม่นานมาก โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง ก็สามารถชาร์จให้เต็ม 80 % ได้

 

รูปประภทหัวชาร์จ AC แบบต่างๆ

 

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC นั้น แตกต่างจากการชาร์จแบบ AC ตรงที่ เป็นการชาร์จตรงเข้าแบตเตอรี่ภายในรถโดยตรงเลย ไม่ต้องผ่าน On Board Charger จึงทำให้ชาร์จได้เร็วกว่า

วิธีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC

การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC สามารถทำได้ที่สถานีชาร์จ DC ซึ่งมักพบเห็นได้ตามสถานีบริการน้ำมัน ปั๊มน้ำ และสถานที่ท่องเที่ยวต่าง ๆ

ในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC นั้น จะต้องเสียบสายชาร์จเข้ากับช่องชาร์จที่ตัวรถ จากนั้นจึงเสียบสายชาร์จเข้ากับสถานีชาร์จ DC โดยใช้หัวชาร์จที่รองรับกับรถยนต์ไฟฟ้ารุ่นนั้น ๆ

หลังจากเสียบสายชาร์จเรียบร้อยแล้ว ระบบจะทำการชาร์จไฟให้อัตโนมัติ ความเร็วในการชาร์จไฟจะขึ้นอยู่กับกำลังไฟฟ้าของสถานีชาร์จ DC

 

ข้อดีของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC

ชาร์จไฟได้เร็วกว่าการชาร์จแบบ AC ใช้เวลาประมาณ 30 นาที ถึง 1 ชั่วโมง
เหมาะสำหรับการเดินทางไกล ลดเวลาในการเดินทาง
เป็นจุดพักผ่อนการขับทางไกลด้วยการแวะชาร์จไฟ
รองรับรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นที่มีช่องชาร์จแบบ DC


ข้อเสียของการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบ DC

ค่าใช้จ่ายในการชาร์จสูงกว่า เฉลี่ย kWh หน่วยละ 6.5 - 7.7 บาท
มีผู้ให้บริการหลากหลายในไทย ต้องติดตั้งแอพลิเคชั่น มีเงื่อนไข การชำระเงิน และวิธีการใช้งานแตกต่างกัน

 

สรุป
สถานีชาร์จ AC และ DC มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันไป การเลือกสถานีชาร์จที่เหมาะสมจึงขึ้นอยู่กับการใช้งานของแต่ละบุคคล หากต้องการชาร์จไฟแบบด่วน สถานีชาร์จ DC จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า หากต้องการชาร์จไฟแบบสะดวกและประหยัด สถานีชาร์จ AC จะเป็นตัวเลือกที่ดีกว่า

 


ที่มา : https://www.erc.or.th/th/energy-articles/2665, https://bard.google.com/
 


TAG

บทความแนะนำ